ประสานตำรวจ-ดีเอสไอ ลุยล่า แก๊งขอทานชาวจีน หลังจับแล้ว 3 ราย ยังเหลืออีก 4 ราย ‘กัน จอมพลัง’ เปิดปมพิรุธเพียบ เชื่อทำเป็นขบวนการ
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 20 พ.ย.2566 ที่สน.ลุมพินี นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง มา เดินทางมาติดตามขยายผลกรณีได้รับแจ้งว่า พบหญิงชาวจีนหน้าเหลวผิดรูป มีรอยไหม้ตามตัวอีกรายมานั่งขอทานใส่ชุดนักเรียนในย่าน สน.ลุมพินี พบว่ามักจะไปนั่งอยู่บริเวณสถานีบีทีเอสอโศกและนานา
ประสานตำรวจ-ดีเอสไอ ลุยล่า แก๊งขอทานชาวจีน หลังจับแล้ว 3 ราย ยังเหลืออีก 4 ราย
นายกัณฐัศว์ กล่าวว่า วันนี้ตนมาที่ สน.ลุมพินี เพื่อมาตามหาหญิงชาวจีนหน้าเละ คล้ายโดนน้ำกรด นิ้วกุด ใส่ชุดนักเรียน ขณะนี้มีเป้าทั้งหมด 7 คน ถูกจับแล้ว 3 คน เหลืออีก 4 คน มีคนแจ้งมาว่าอยู่ในพื้นที่ของ สน.ลุมพินี ซึ่งตนประสานกับผู้กำกับแล้ว และผู้กำกับยินดีให้ความช่วยเหลือ ทั้งนี้ ไม่ได้มีแค่เจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่มีทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ด้วย ส่วนรายอื่น ๆ พบอยู่ในพื้นที่ดินแดงและเพลินจิต
นายกัณฐัศว์ กล่าวต่อว่า โดย 3 วันที่ผ่านมา ตนพบว่ามีสิ่งผิดสังเกตเยอะมาก ซึ่ง 3 คนที่ถูกจับนั้น มีล่ามโผล่มาที่ สน.ทุกคน ทุกคนไม่มีพาสปอร์ตติดตัว แต่ล่ามจะเป็นคนนำพาสปอร์ตมาให้ ส่วน 3 คนไม่ให้ข้อมูลอะไรเลย จะพูดเพียงว่าสมัครใจมาทำ ทั้งนี้ ตนยังประสานกับ รองอธิบดี พม. ว่ามันดูผิดปกติ เข้าข่ายการค้ามนุษย์หรือไม่
นายกัณฐัศว์ กล่าวอีกว่า ตนตั้งข้อสังเกตว่า มีการโกหก ที่ทั้ง 3 คน อ้างว่าสมัครใจมาทำ แต่อาจมีผู้อยู่เบื้องหลังบังคับให้คนเหล่านี้มาทำ หรือหากบอกปลายทางครอบครัวอาจจะเป็นอันตรายก็ได้ นอกจากนี้ เรื่องซิมโทรศัพท์ตนสงสัยว่าเอามาจากไหน แต่เขาอ้างว่าเจอตกอยู่ข้างถนน ซึ่งตนไม่เชื่อว่าเป็นเช่นนั้น รวมถึงกุญแจห้องคีย์การ์ด เขาไม่ยอมบอกว่าเอามาจากไหน แต่บอกว่าจะอยู่ข้างถนน ตนเลยมองว่ามันแปลกมาก
นายกัณฐัศว์ กล่าวด้วยว่า ส่วนคนที่ถือพาสปอร์ตของทั้ง 3 คนเป็นชาวจีน แต่ตนมองว่าไม่บริสุทธิ์ใจเพราะไม่ยอมมาเจอ ตนจึงประสาน พม. ว่าคนจีนรายนี้เกี่ยวข้องอะไร และล่ามไม่ใช่ล่ามธรรมดา เพราะนั่งรถยนต์หรูมา และมีสามีชาวจีนมาด้วย และทุกครั้งก็มาขอยัดเงินตำรวจต่อหน้าตน จำนวน 10,000 บาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัวให้กับประเทศเอง
นายกัณฐัศว์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนถามว่า เคยทำแบบนี้หรือไม่ ซึ่งทั้ง 3 คนอ้างว่าเคยทำได้บ้างไม่ได้บ้าง นอกจากนี้ ยังมีการมาขอเคลียร์กับตน โดยจะให้เงินทั้งหมดที่มีเพื่อแลกกับการกลับประเทศ ซึ่ง 2 คนแรก ใช้ล่ามคนเดียวกัน คนที่ 3 ใช้ล่ามอีกคน โดยทั้งหมดจะมีแพตเทิร์นเดียวกัน คือ ใส่ชุดนักเรียน มีลักษณะเดียวกันเหมือนได้มาแพตเทิร์นเดียวกัน กล่องขอเงินแบบเดียวกัน มีคนไทยมาเคลียร์ให้ ตนถามถึงเหตุผลที่มาเคลียร์ให้ขอทานชาวจีน กลับได้เหตุผลว่าเขาไปนั่งกินข้าวที่ร้านแล้วขอให้ช่วย เลยมาช่วย แต่ตนมองว่ามันฟังไม่ขึ้น
นายกัณฐัศว์ กล่าวว่า ส่วนวันนี้ตนกังวลว่า หากเราใช้แผนการเดิม เป้าหมายอาจไหวตัวทัน จึงประสานผู้กำกับสน.ลุมพินี และดีเอสไอ หากวันนี้เราได้ตัว นำตัวเข้าดีเอสไอเพื่อขยายผลต่อไป อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามพบว่า มีการจ้างงานจากมาเลเซีย และไม่ใช่การเข้าไทยครั้งแรก แต่เป็นครั้งที่ 4-5 อยู่ไทยมาประมาณ 10 วัน
นายกัณฐัศว์ กล่าวด้วยว่า และที่ขอเคลียร์เงินนั้นเนื่องจากไม่อยากให้ถูกแบล็คลิสต์ เพราะหากถูกส่งกลับอาจจะไม่ได้กลับมาอีกเลย ซึ่งตนสงสัยว่าเข้าผ่านมาเลเซียมาได้อย่างไรตั้งหลายครั้ง และทุกครั้งที่ออกไปนั้นออกไปเพราะเหตุใด เพราะวีซ่าเกินหรือถูกจับหรือไม่ วันนี้ที่อยากให้ดีเอสไอเข้ามาช่วย คือ 1.เนื่องจากมีการอ้างตำรวจในการขอเคลียร์ 2.เพื่อขยายผลถึงต้นขบวนการให้ได้ว่า ใครเป็นคนจัดหามา ตนเองเชื่อว่าเป็นขบวนการเพราะทุกคนรู้จักกัน อย่างเคสปิ่นเกล้าเมื่อวันที่ 19 พ.ย.ที่ผ่านมา ตนเชื่อว่ามีคนพาไปแน่นอน
กัน จอมพลัง กล่าวว่า อีกทั้งบาดแผลของทั้งสามคนยังเหมือนกัน ทุกคนนิ้วกุด ส่วนบาดแผลบนใบหน้า ที่อ้างว่าถูกน้ำกรดนั้น ตนยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะลักษณะมันไม่ใช่ อย่างของผู้หญิงรายนี้มีวงแหวนอยู่ตรงคอเหมือนถูกโหลแก้วครอบ ที่มือก็เช่นกัน ตัวเองมองว่ามันเป็นผิดปกติ ซึ่งทุกคนอ้างว่า บาดแผลทุกคนบอกถูกไฟไหม้
นายกัณฐัศว์ กล่าวด้วยว่า ตนเชื่อว่าเป็นขบวนการแน่นอนเพราะมีเล่ห์เหลี่ยม รู้ทันกฎหมาย มีพาสปอร์ต และพูดเหมือนกันว่าสมัครใจมา แต่คนที่ 2 กดแปลภาษาให้ล่ามดู เขาเขียนว่า “ฉันไม่ได้พูดอะไรถึงคุณเลยนะ” ส่วนคนที่ 3 บอกว่าไม่รู้ว่าประเทศไทยผิดกฎหมาย ส่วนที่ประเทศเขาไม่ได้ผิดกฎหมาย แต่ที่ขอทานเยอะมาก เลยต้องมาที่นี่
นายกัณฐัศว์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลส่วนใหญ่อยู่ไทยเป็นระยะเวลาหลักเดือน และตนเชื่ออย่างแน่นอนว่าล่ามต้องมีส่วนเกี่ยวข้องไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เพราะขอทานอ้างว่านอนริมถนน เพราะเหตุใดจึงเอาพาสปอร์ตไปฝากคนอื่น ส่วนขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจรู้แหล่งกบดานที่เรียบร้อยแล้ว
ต่อมาเวลา 11.00 น. นายกัณฐัศว์ ได้เข้าไปประสานกับ พ.ต.อ.นิมิตร นูฌพนทอง ผกก.สน.ลุมพินี ถึงกรณีดังกล่าว